top of page

Item One

“ไทยเวียตเจ็ท” เปิดแผนธุรกิจต้อนรับปีกระต่าย

ไทยเวียตเจ็ท เผยแผนปี 66 เดินหน้าขยายเส้นทางการบินยกระดับการให้บริการ ล่าสุด เปิดเส้นทางเชียงใหม่สู่โอซาก้า เริ่มบินปลาย ม.ค. นี้ รองรับต่อความต้องการของผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ

    คุณปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายต่างๆ และการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวทั้งในและระหว่างประเทศเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น

dddddสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 พันธกิจหลักของสายการบินไทยเวียตเจ็ท ยังคงเป็นการขยายเครือข่ายเส้นทางบินไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเตรียมแผนเปิดตัวเส้นทางระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ๆ หลากหลายเส้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่ จุดหมายปลายทางหลากหลายทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ภายในไตรมาสแรกของปี รวมถึงบริการบินตรงระหว่างเชียงใหม่และโอซาก้า (ญี่ปุ่น) เริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

ddddd“ไทยเวียตเจ็ทมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง เชียงใหม่ และ โอซาก้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดหมายยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น ภายหลังจากสายการบินฯ เริ่มให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ฟูกุโอกะ ในเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นมอบทางเลือกการเดินทางที่หลากหลายเพื่อให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยมีโอกาสเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นด้วยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

dddddรวมถึงต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นสู่เชียงใหม่ ประเทศไทย ขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังฟื้นสู่สภาวะใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เราเชื่อมั่นว่าการกลับมาให้บริการระหว่างสองจุดหมายปลายทางจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ตอบสนองความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ธุรกิจการบิน และเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศในภาพรวม” คุณปิ่นยศกล่าว

Read More

dddddตลอดจนเพิ่มจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ อาทิ อินเดีย ที่มีดีมานด์ของตลาดการท่องเที่ยวสูง ซึ่งนอกจากจะนำนักท่องเที่ยวไปสู่อินเดียแล้วยังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากอินเดียสู่ไทยด้วย ส่วนการเปิดเส้นทางการบินสู่จีน ยังคงต้องชะลอ เนื่องจากจีนได้ประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง ภายหลังโรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนักอีกครั้ง

dddddนอกจากนี้ จะมีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ามาใช้งาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการตั้งแต่การหาเส้นทางท่องเที่ยว การจองเที่ยวบิน และระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว โดยภายในปีนี้ ลูกค้าจะได้เห็นถึงการพัฒนาการให้บริการที่เป็นเทคโนโลยีทันสมัยและสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สะดวกสบายและสร้างความแตกต่างจากสายการบินอื่นๆ

dddddส่วนแผนในระยะกลางและระยะยาว บริษัทยังคงเน้นการเพิ่มเส้นทางการบินใหม่ๆ เข้าถึงเส้นทางการบินในโซนเอเชียให้ได้ครบทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางการบินสู่ประเทศจีน ซึ่งเดิมสายการบินไทยเวียตเจ็ท มีเส้นทางการบินมากกว่า 30 เมือง ดังนั้น เมื่อจีนเปิดประเทศแล้วจะตั้งเป้าหมายขยายเส้นทางการบินให้ครบเช่นเดิม รวมทั้ง การจัดซื้อเครื่องบินลำใหม่เข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่องให้เพียงพอต่อเส้นทางการบินที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

dddddคุณปิ่นยศกล่าวต่อว่า ปัจจุบันสายการบินไทยเวียตเจ็ทให้บริการครอบคลุม 12 เส้นทางบินภายในประเทศ จากเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ไปยังจังหวัด เชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต, กระบี่, อุดรธานี, หาดใหญ่, ขอนแก่น, นครศรีธรรมราช, อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี รวมทั้ง เปิดเส้นทางบินข้ามภูมิภาค จากสนามบินภูเก็ตไปเชียงใหม่และเชียงราย

dddddส่วนเส้นทางการบินระหว่างประเทศสู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เช่น กัมพูชา, เวียดนาม, ไทเป, ไต้หวัน, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น และอีกหลายจุดหมายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาคที่คาดว่าจะเปิดให้บริการต่อไปในอนาคต อีกทั้ง สายการบินไทยเวียตเจ็ท ยังร่วมกับ เวียตเจ็ท กรุ๊ป (Vietjet group) ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและเวียดนามด้วยความถี่สูงสุด

dddddโดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและเวียดนามแล้วรวมกว่า 2,500 เที่ยวบิน ขนส่งผู้โดยสารกว่า 350,000 คน บนเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุมและหลากหลาย ได้แก่ เส้นทางบินจาก กรุงเทพฯ สู่ ฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง ฟู้โกว๊ก รวมทั้งเส้นทางบินตรงจาก ภูเก็ต และ เชียงใหม่ สู่ โฮจิมินห์ซิตี้ พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้กลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่าง กรุงเทพฯ และ ดาลัด เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาด้วย

 

dddddขณะเดียวกัน ไม่เพียงแต่การขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องเท่านั้น สายการบินฯ ยังเดินหน้าปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินบนเส้นทางบินต่างๆ ที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพื่อตอบรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้โดยสารภายหลังการผ่อนคลายมาตรการเดินทางในหลายประเทศ โดยสายการบินฯ ประกาศเพิ่มความถี่เที่ยวบินบนเส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ - ฟูกุโอกะ เป็น 1 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ - ไทเป เป็น 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเดือนธันวาคม 2565 และจะปรับเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน ในเดือนมกราคม 2566

dddddอย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มดีขึ้น แต่ทางสายการบินไทยเวียตเจ็ทยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของสุขอนามัยและความปลอดภัยอยู่เสมอ โดยดำเนินการต่างๆ ตามมาตรฐาน SHA อย่างเคร่งครัดและภายในเครื่องบินโดยสารได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเป็นประจำ เพื่อสร้างมาตรฐานท่องเที่ยวมั่นใจปลอดภัยให้กับผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

dddddนอกจากนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและการบริการอีกด้วย ซึ่งเครื่องบินโดยสารจะได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาก่อนทำการบิน ควบคู่กับการพัฒนาการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และในอนาคตมีแผนที่จะนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่การจองเที่ยวบิน ระหว่างเดินทาง และภายหลังการเดินทาง

dddddส่วนการเปิดตัว ‘Sky Café’ คาเฟ่ที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติแก่ผู้โดยสารบนเที่ยวบิน ทั้งภายในและระหว่างประเทศ ซึ่ง Sky Café ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายหลังจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้สายการบินให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบินภายในประเทศอีกครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ภายหลังจากหยุดให้บริการอย่างยาวนานเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

dddddคุณปิ่นยศกล่าวต่อถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR ว่า สายการบินไทยเวียตเจ็ทให้ความสำคัญต่อการจัดกิจกรรมคืนกำไรสู่งสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เปิดตัวแคมเปญ “การ์เบจ ฮันเตอร์ (Garbage Hunter)” ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายมุ่งกำจัดมลพิษทางขยะในประเทศไทย พร้อมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในหมู่พนักงานของสายการบินฯ ผ่านกิจกรรมที่ช่วยลดจำนวนขยะจากสิ่งแวดล้อม อาทิ ชายหาด แม่น้ำ และลำคลอง

ddddd“ในฐานะผู้ในริการด้านการคมนาคมทางอากาศ ไทยเวียตเจ็ทเชื่อว่าเราต้องรับผิดชอบต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นลดมลพิษจากการปฏิบัติการในแต่ละวัน และได้ดำเนินนโยบายที่มีส่วนช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม ลดสาเหตุของปัญหาภาวะโลกร้อนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ” คุณปิ่นยศกล่าว

dddddโดยคาดว่าจะสามารถกำจัดขยะได้อย่างน้อยปีละ 5 ตัน ผ่านหลากหลายกิจกรรมและความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ตลอดทั้งปี ในระยะถัดไป นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมในหมู่พนักงานของไทยเวียตเจ็ทแล้ว สายการบินฯ ยังวางแผนขยายขอบข่ายการมีส่วนร่วมไปยังครอบครัวของพนักงาน นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปในประเทศไทยด้วย

CSR

dddddนอกจากนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ทเป็นสายการบินแรกๆ ของโลกที่ปฏิวัติวงการการบินในการปรับใช้นโยบายประหยัดพลังงาน รวมทั้งการใช้งานนวัติกรรมประหยัดพลังงาน อาทิ การรับมอบอากาศยานแบบ Airbus A321neo ACF สู่ฝูงบิน รวมทั้งในปีที่ผ่านมา ได้ก่อตั้งกองทุนฟลายกรีนฟันด์ (Fly Green Fund) โดยร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เชิญชวนผู้โดยสารและประชาชนทั่วไปร่วมสมทบทุนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมเพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่าของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนฟลายกรีนฟันด์ ได้ที่เว็บไซต์ https://th.vietjetair.com/donation

dddddโดยล่าสุด สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้เปิดตัวโครงการ “เมโทร ฟอร์เรสต์ (Metro Forest)” โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมโครงการใหม่ล่าสุดภายใต้กองทุนฟลายกรีนฟันด์ (Fly Green Fund) ร่วมกับ มูลนิธิสืบนาคะเถียร เชิญชวนผู้โดยสาร สมาชิก นักเรียนนักศึกษา และพนักงานของสายการบินฯ ร่วมปลูกต้นไม้กว่า 200 ต้น ณ สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กรุงเทพมหานคร

dddddประกอบกับ ในปัจจุบันยังมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินให้เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ง่าย (Biodegradable) และสามารถนำมารีไซเคิลให้ได้มากที่สุด และในปีนี้ เมื่อสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายและดีขึ้น สายการบินไทยเวียตเจ็ทจะมีการจัดกิจกรรม CSR ต่างๆ มากขึ้น

dddddคุณปิ่นยศกล่าวปิดท้ายว่า สายการบินไทยเวียตเจ็ทขอขอบคุณผู้อ่าน Answer News Industrial Magazine และลูกค้าที่ใช้บริการสายการบินฯ เสมอมา ซึ่งจากสถานการณ์ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้เปิดทำการบินเส้นทางในประเทศมากกว่าเดิมและได้รับกระแสตอบรับจากผู้โดยสารที่ดีเป็นอย่างมาก และในอนาคตก็จะเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ อีกหลายเส้นทาง โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.vietjetair.com, www.facebook.com/VietJetThailand, Twitter @thaivietjet หรือ LINE Account @thaivietjet และแอปพลิเคชัน “Vietjet Air”

dddddส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน คาดว่าในไตรมาส 2/2566 จะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่อาจจะไม่ได้รับกระแสตอบรับดีเช่นก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากนัก อย่างไรก็ตาม สายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อประเทศจีนคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศเมื่อใดก็สามารถที่จะเพิ่มเที่ยวบินได้ทันที

dddddคุณปิ่นยศกล่าวถึงวิสัยทัศน์ละนโยบายในการบริหารองค์กรและบุคลากรว่า ตนให้ความสำคัญเรื่องของการวางแผนงาน ด้วยปัจจัยทั้งทางตรงและทางอ้อมที่อาจจะเกิดในอนาคตไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด จึงทำให้การวางแผนจะต้องมีการกำหนดไว้หลายแผนงานและสามารถปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วให้สอดคล้องกับสถานการณ์นั้นๆ เพื่อให้สามารถรับมือ แก้ไข และลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา

dddddรวมทั้ง การบริหารทีมงาน ตนเล็งเห็นว่าการปฏิบัติงานไม่สามารถดำเนินงานได้เพียงหนึ่งเดียว แม้กระทั่งภายในจะต้องทำงานเป็นทีมและระหว่างองค์กรที่จะต้องทำงานร่วมกัน ควบคู่กับการบริหารทีมให้มีความสนุกกับการทำงาน มีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนและรับมือได้ในทุกสถานการณ์อย่างทันท่วงที โดยที่ผ่านมาสามารถรับมือได้หลายสถานการณ์ เช่น น้ำท่วม, โควิด-19, ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น, สงครามระหว่างประเทศ และอื่นๆ ซึ่งทีมงานสามารถปรับตัวและปฏิบัติงานได้อย่างมีศักยภาพ

ddddd“นอกจากการบริหารงานแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือการสร้างพลังบวกให้กับบุคลากร ทั้งในเรื่องของทัศคติที่ดีและเพิ่มศักยภาพในการทำงาน เพื่อให้เกิดการเติบโตในหน้าที่การงานของแต่ละบุคคล รวมไปถึงการทำงานร่วมกันแบบครอบครัว หากพนักงานปฏิบัติงานดีจะได้รับคำชื่นชมและหากมีข้อผิดพลาดก็จะให้คำแนะนำเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น” คุณปิ่นยศกล่าว

ddddd“เราจะเร่งเพิ่มเส้นทางการบินให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางการเดินทางต่างๆ และด้วยจุดแข็งเรื่องของเส้นทางการบินที่หลากหลายในราคาที่จับต้องได้ ควบคู่กับการพัฒนาการให้บริการและความปลอดภัยที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น รวมทั้ง เราได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ผ่านโปรโมชัน แคมเปญ และกิจกรรม CRM, CSR ต่างๆ ด้วย” คุณปิ่นยศกล่าว

 

dddddคุณปิ่นยศกล่าวต่อถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ว่า ด้านแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของบริษัทคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะได้รับปัจจัยหลักจากการเพิ่มเส้นทางการบินที่คุ้มทุนและรอบการบินที่มากขึ้น รวมทั้ง แนวโน้มการเดินทางของผู้โดยสารที่มากขึ้นตามไปด้วย ควบคู่กับนโยบายในการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ

dddddสำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบินภายในประเทศคาดว่าจะกลับสู่สภาวะปกติกว่าปีก่อน เพราะในปัจจุบันเที่ยวบินภายในประเทศเริ่มมีอัตราเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ ด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบินระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีเที่ยวบินจากอินเดียมากขึ้น ด้วยการเปิดประเทศของอินเดีย ดีมานด์ และผู้ประกอบการสายการบินเริ่มเพิ่มจำนวนรอบเที่ยวบินระหว่างไทยกับอินเดียไปยังเมืองต่างๆ

bottom of page