ROYALTEC หรือ รอยัลเทค อินเตอร์เนชั่นแนล โชว์ผลงานเด่นตลอดระยะเวลา 36 ปีที่ผ่านมา พร้อมก้าวสู่ปีที่ 37 ด้วยแผนธุรกิจเพิ่มสินค้าใหม่ ขยายโรงงาน และเตรียมแปรสภาพสู่ บมจ. ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยนโยบาย “Single Source for Your Needs”
คุณกรกิต ชีวกิตติกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอยัลเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ROYALTEC ดำเนินธุรกิจจัดหาจัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและระบบการสื่อสารอย่างครบครัน พร้อมมอบการบริการรูปแบบครบวงจรให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ว่า บริษัทเริ่มตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 ปัจจุบันครบรอบ 36 ปีและกำลังก้าวสู่ปีที่ 37 อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเภทซื้อมา-ขายไป หลากหลายแบรนด์ อาทิ BELDEN, Panduit เป็นต้น
ส่วนประเภทสินค้าที่บริษัทเป็นผู้แทนในการจัดจำหน่ายหลัก ได้แก่ ท่อร้อยสายไฟและอุปกรณ์ประกอบต่างๆ สำหรับงานอุตสาหกรรม, งาน Oil&Gas, ปิโตรเคมี, สายสัญญาณสำหรับใช้ในงานต่างๆ (Network, Building, Automation),ระบบ Control และงานระบบระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานอุตสาหกรรม (PLC) เป็นต้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการเติบโตของธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงที่เริ่มดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม M&E เป็นกลุ่มสินค้าหลักของบริษัท สามารถสร้างรายได้กว่า 80% แต่ในช่วง10-20 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลเริ่มมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของคนมากขึ้น ทำให้มีความต้องการทางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) สูงตามไปด้วย ซึ่งบริษัทได้มีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทำให้สัดส่วนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 60 : 40 หรือเกือบ 50 : 50 แล้ว
“เราเริ่มก่อตั้งบริษัทและเติบโตจากธุรกิจ M&E ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก และด้วยทิศทางของงานด้าน Data Center เริ่มมีการเติบโตมากจากขึ้น จากการก้าวเข้าสู่ยุค Disruption หรือ การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ที่เน้นการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ รอบตัว และมองหาสิ่งที่จะสามารถต่อยอดได้ในอนาคตเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ปัจจุบันได้เริ่มเปลี่ยนผ่านและนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้งานกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีความต้องการในเรื่องระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) ที่ดีและต้องมีประสิทธิภาพสูง เพื่อเข้ามาตอบสนองต่อการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของสถาบันการเงินและบริษัทข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานบนระบบไอที จึงทำให้เรามีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง” คุณกรกิตกล่าว
สำหรับจุดแข็งของบริษัทที่ทำให้เติบโตและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริษัทมีโรงงานผลิตท่อร้อยสายไฟ ภายใต้แบรนด์ RSI ดำเนินการผลิตโดย บริษัท รอยัลสตีลอินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ผลิตท่อร้อยสายไฟฟ้าเหล็กชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot Dipped Galvanized) ดำเนินการผลิตแบบครบวงจร และบริษัทยังเป็นโรงงานเดียวในปัจจุบันที่มีการผลิตท่อเหล็กร้อยสายไฟแบบดังกล่าว
โดยจุดเด่นของท่อร้อยสายไฟฟ้าเหล็กชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot Dipped Galvanized) จะอยู่ที่คุณภาพและอายุการใช้งานที่คงทนยาวนาน ด้วยข้อดีหลักๆของเหล็กกัลป์วาไนซ์ คือ ความทนทานต่อการกัดกร่อนจึงทำให้เกิดสนิมได้ยาก และมีอายุการใช้งานจึงยาวนานกว่าเหล็กชุบชนิดอื่น รวมทั้ง บริษัทยังได้ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยจากภายในประเทศและต่างประเทศ อาทิ มาตรฐาน BSI (British Standards Institution) ของประเทศอังกฤษ, มาตรฐาน UL (Underwriter Laboratories) ของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก.) หรือ TIS
“ผลิตภัณฑ์ของเราได้ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย ซึ่งแต่ละมาตรฐานที่เราได้ผ่านการรับรองได้ผ่านการตรวจสอบ การประเมินและการตรวจสอบ เรื่องคุณภาพ ความแข็งแรงคงทน และความปลอดภัยในการนำไปใช้งาน โดยก่อให้เกิดสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้งานและสามารถตอบโจทย์ต่อการผลิตเพื่อจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลกด้วย” คุณกรกิตกล่าว
ด้านโครงการที่เป็นผลงานการสร้างความภาคภูมิใจตลอดระยะเวลาผ่านมา บริษัทได้รับผิดชอบในส่วนของงานท่อร้อยสายไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นโครงการแรกของไทยที่มีการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินและได้นำท่อร้อยสายไฟฟ้า แบรนด์ RSI ของบริษัทไปติดตั้งทั่วโครงการ รวมทั้ง โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, โรงกลั่นน้ำมัน และโรงไฟฟ้าหลายแห่งทั่วประเทศ
ประกอบกับ ผลงานในต่างประเทศที่ได้นำผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟ RSI ไปใช้งาน อาทิ ท่าอากาศยานประเทศกาตาร์, ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ, ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์, อาคารมารีนาเบย์แซนส์ (Marina Bay Sands) ประเทศสิงคโปร์ และอาคารเบิร์จคาลิฟา Burj Khalifa เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละโครงการที่บริษัทได้เข้าไปดูแลและรับผิดชอบงานท่อร้อยสายไฟ ล้วนมีความยากง่ายที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานโครงการขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมเสนอราคาจำนวนมากและมีการแข่งขันในเรื่องของราคา บริษัทจึงต้องมีการวางแผนงาน ในการสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องของคุณภาพสินค้าและความคุ้มค่าต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความคงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ส่วนการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพต่างๆ ให้กับคู่ค้าและ/หรือลูกค้าในแต่ละโครงการที่จะเข้าไปประมูลงาน บริษัทจะจัดส่งทีมงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการตลาด เป็นผู้นำเสนอรายละเอียดผลิตภัณฑ์ วิธีการในการใช้งานและคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความปลอดภัยในการใช้งานผลิตภัณฑ์ อายุการใช้งานที่ยาวนาน และการลดค่าใช้จ่ายหรือปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากงานซ่อมบำรุงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่บ่อยครั้ง เป็นต้น
ตลอดจนการให้บริการในเรื่องการออกแบบและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมต่องานโครงการ และการคำนวณทางวิศวกรรมที่ตรงตามมาตรฐานสากล ซึ่งบริษัทจะมองถึงโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์
ที่เหมาะสม วางแผนงาน และขั้นตอนการทำงานที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จและราบรื่นที่สุด อีกทั้ง ยังสามารถบริหารจัดการควบคุมต้นทุนของงานก่อสร้างให้สอดรับกับงบประมาณของทางคู่ค้าหรือลูกค้าด้วย
นอกจากการนำเสนอข้างต้นแล้ว บริษัทยังมีสถานที่ภายในอาคารสำนักงานที่สามารถรองรับการจัดเทรนนิ่งให้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาสินค้าจริงและทำการ workshop เพื่อสร้างความเข้าใจในวิธีการใช้งานต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจและสามารถโต้ตอบข้อสงสัยได้ทันที และหากลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์เกิดความประทับใจแล้วก็จะเกิดการเลือกใช้งานผลิตภัณฑ์คุณภาพของบริษัทในโครงการต่อไป
คุณกรกิตกล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทมีแผนที่จะแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด คาดว่าจะยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในช่วงไตรมาสที่ 2/2567 เพื่อระดมทุนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาธุรกิจ รวมทั้ง นำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจตอบโจทย์ความต้องการและเข้าถึงพฤติกรรมลูกค้าและคู่ในสังคมดิจิทัลยุคใหม่ เป็นการต่อยอดธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
ประกอบกับในปี 2567 บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสินค้าใหม่ในกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันได้มีการลงนามสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแล้วหลายแบรนด์ชั้นนำและคาดว่าจะมีสินค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของโรงงาน บริษัทคาดว่าจะใช้งบในการลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ในการดำเนินการปรับปรุงระบบวิศวกรรมต่างๆหรือเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ภายในโรงงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟของบริษัทในปัจจุบันจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าตลาดที่มีกำลังซื้อสูงเป็นหลัก ดังนั้นจึงมีแผนที่จะซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อผลิตและขยายไลน์ธุรกิจผลิตท่อร้อยสายไฟที่มีราคาย่อมเยาให้สามารถเข้าถึงลูกค้าตลาดกลุ่มอื่นๆมากขึ้น อาทิ กลุ่มที่อยู่อาศัยหรือกลุ่มอาคารพานิชย์ทั่วไป เป็นต้น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
ด้านแนวโน้มในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน บริษัทมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหลากหลายของสินค้าในกลุ่ม M&E และได้รับปัจจัยเสริมจากความต้องการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นต้นมา ทำให้เกิดชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และการเว้นระยะห่างในสังคม (Social Distancing) ในเรื่องของไอทีและดิจิทัลจึงมีความสำคัญขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
โดยหลายองค์กรเริ่มหันมาประชุมงานออนไลน์ ซึ่งระบบไอทีที่ดีมีประสิทธิภาพจึงเข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การสื่อสารออนไลน์สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหาและรวดเร็วในการสื่อสาร รวมทั้ง ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ภาครัฐมีนโยบายในการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 เข้ามาช่วยในเรื่องของกระบวนต่างๆ เสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและพร้อมแข่งขันในตลาดโลก ทำให้ความต้องการโครงสร้างฯ เพิ่มมากขึ้น
คุณกรกิตกล่าวต่อว่า บริษัทขอขอบคุณคู่ค้าและลูกค้าที่ให้การสนับสนุนกันมาอย่างยาวนานกว่า 15-20 ปี ระหว่างการทำธุรกิจร่วมกันอาจจะมีปัญหาจากปัจจัยต่างๆ เข้ามากระทบอยู่บ้างแต่ก็สามารถที่จะสร้างความเข้าใจและร่วมฝ่าฟันปัญหาให้ผ่านพ้นไปด้วยดี บริษัทหวังไว้ว่าอยากร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ต่อไปอีกยาวนานและเติบโตเคียงข้างไปด้วยกัน
สำหรับผู้อ่าน Answer News Industrial Magazine บริษัทใคร่ฝากธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และการบริการกับผู้อ่านทุกท่าน บริษัทมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการบริการต่างๆ จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี ด้วยผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ตอบโจทย์ในเรื่องของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ครบวงจร
คุณกรกิตกล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทได้เข้าร่วมงานTEMCA M&E Thailand 2023 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Smart Sustainable Cities” บริษัทได้เข้าร่วมจัดแสดงบูธผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายในงานดังกล่าวด้วยและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้เยี่ยมชม และนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยงานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 18-19 สิงหาคม 2566ณ ห้องคอนเวนชัน A/B/C โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้จอมเทียนพัทยา จังหวัดชลบุรี
留言