“เบอคาน่า พาวเวอร์” บุกตลาดเชื้อเพลิงพลังงานที่ได้จากการแปรรูปวัสดุชีวมวล ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยใบรับรองคุณภาพมาตรฐานสากลต่างๆ และได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดแผนธุรกิจ เร่งขยายตลาดต่างประเทศ และเตรียมลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่รองรับการเติบโตในอนาคต
คุณอิทธิพัฒน์ เอื้อเสริมพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบอคาน่า พาวเวอร์ จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัท ESP Holding (ESPG) ผู้ผลิต จัดหาและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลและถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษว่า บริษัท เบอคาน่า พาวเวอร์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท ESPG เป็นผู้นำด้านเชื้อเพลิงชีวมวลและเชื้อเพลิงแข็งประเภทถ่านหินมานานกว่า 30 ปี
สำหรับกลุ่มบริษัท ESPG ดำเนินธุรกิจทางด้านพลังงานของแข็ง เริ่มต้นจากการจำหน่ายถ่านหินแอนทราไซต์ (Anthracite) ถ่านหินคุณภาพสูงที่นำมาใช้ในการหลอมเหล็กและการกรองน้ำประปา โดยทางบริษัทได้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายให้ทั้งภาครัฐและเอกชนมากว่า 30 ปี ในระยะเวลาต่อมาบริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ในการจัดหาและจำหน่าย ถ่านหินบิทูมีนัส (Bituminous) ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงปูน และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าและผลิตไอน้ำในกระบวนการผลิตของลูกค้า
ประกอบกับ ด้วยทิศทางความต้องการพลังงานทางเลือกที่เน้นพลังงานสะอาดและรักษ์โลกมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งลูกค้าเดิมของบริษัทได้เริ่มให้ความสนใจพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้นด้วย บริษัทจึงได้จัดตั้ง บริษัท เบอคาน่า พาวเวอร์ จำกัดเพื่อ ดำเนินธุรกิจที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทางด้านพลังงานสะอาด โดยจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลจากธรรมชาติ เช่น กะลาปาล์ม ไม้สับ และขี้เลื่อยอัดแท่ง เป็นต้น
ด้านปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินธุรกิจของ บริษัท เบอคาน่า พาวเวอร์ จำกัด มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับการตอบรับจากลูกค้าและรัฐบาลประเทศต่างๆ มาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและได้รับรองมาตรฐานสากลต่างๆ อาทิ มาตรฐานบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001), มาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (ISO 14000), มาตรฐาน Forest Stewardship Council (FSC) สำหรับไม้สับและขี้เลื่อยอัดแท่ง และ Green Gold Label (GGL) สำหรับกะลาปาล์ม เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความโดดเด่นทางการให้บริการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพ การจัดส่งอย่างรวดเร็วตอบสนองต่อความต้องการใช้งาน ด้วยการพัฒนาระบบ IT Inhouse ทำให้สามารถรับแผนงานจากลูกค้าและอัพเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ มีระบบการขนส่งที่คล่องตัว ขนส่งได้ครั้งละปริมาณมาก รองรับคำสั่งซื้อที่ด่วนและจัดส่งปกติ และรับผิดชอบต่อสินค้า ซึ่งหากพบสินค้ามีปัญหาหรือไม่ได้คุณภาพ บริษัทพร้อมที่จะเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ทันที
คุณอิทธิพัฒน์กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจและแผนการลงทุนในระยะยาวว่า บริษัทมีโครงการที่จะพัฒนา Plantation ซึ่งเป็นโครงการปลูกพลังงานได้เอง และการเพิ่มไลน์การผลิต รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่เดิมของบริษัทที่ติดแม่น้ำ โดยการก่อสร้างท่าเรือที่สามารถขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศได้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะพัฒนาการให้บริการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) กว่า 60% ติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลและถ่านหินของประเทศ มีสัดส่วนการผลิตและจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 85% และอีก 15% เป็นตลาดต่างประเทศ อาทิ ประเทศญี่ปุ่น, ไต้หวัน เป็นต้น และในอนาคตคาดว่าจะมีการปรับสัดส่วนตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% รวมทั้ง บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ด้วยความเชื่อมั่นของฐานลูกค้าและลูกค้ารายใหม่ๆ ที่จะทำให้อัตราการเติบโตตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตลอดจน ขยายตลาดใหม่ในประเทศจีน เกาหลี และประเทศในโซนยุโรป ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลและกำลังวางกลยุทธ์
คุณอิทธิพัฒน์กล่าวปิดท้ายถึงการขอบคุณซัพพลายเออร์ที่ให้การสนับสนุนการจัดทำข่าวในครั้งนี้ว่า ตนและบริษัทขอขอบคุณที่ทาง Answer News Industrial Magazine ได้นำเสนอข่าวสารข้อมูลของบริษัทกับซัพพลายเออร์ที่เป็นพันธมิตรทางการค้าที่ดีเสมอมา และขอฝากผู้อ่านที่มีความสนใจใช้บริการว่า บริษัทมีความพร้อมในหลากหลายด้านที่จะส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าคุณภาพให้กับผู้ประกอบการที่สนใจ และมั่นใจได้ว่า “เราส่งมอบสินค้าคุณภาพที่ดีที่สุดให้ท่านอย่างแน่นอน”
Comments